“โยโย่เอฟเฟค” คืออะไร ไม่อยากกลับไปอ้วนต้องรู้!

yo yo effect

เคยไหม…ที่ไม่ว่าจะลดน้ำหนักอย่างไร น้ำหนักตัวก็ยังขึ้นๆ ลงๆ เด้งเป็นโยโย่อยู่อย่างนั้น น้ำหนักไม่นิ่งเสียที อาการแบบนี้มีชื่อเรียกที่หลายๆ คนรู้จักกันดีว่า “โยโย่เอฟเฟค” นั่นเอง Fit.Friend เชื่อว่าหลายๆ คนที่กำลังอยากลดน้ำหนักหรือลดน้ำหนักอยู่ คงจะประสบปัญหาเช่นนี้ จนบางครั้งก็ถึงขั้นถอดใจกันไปกลางคันก็มี 

วันนี้เรามาทำความรู้จักกับ อาการโยโย่เอฟเฟค (yo yo effect) สาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหาน้ำหนักตัวเด้งไปเด้งมา เดี๋ยวขึ้น เดี๋ยวลง เพื่อจะได้แก้ปัญหาที่ต้นเหตุและลดน้ำหนักให้สำเร็จ พร้อมทั้งไม่กลับไปอ้วนอีกครั้งกันค่ะ

อาการโยโย่เอฟเฟค คืออะไร?

อาการโยโย่เอฟเฟค (Yo Yo Effect) คือ ภาวะของน้ำหนักตัวที่ขึ้นอย่างรวดเร็ว จากการลดน้ำหนักแบบผิดวิธี ที่ในช่วงแรกเราอาจจะได้น้ำหนักตัวที่ลดลง แต่การกินอาหารที่ขาดความสมดุลของร่างกาย จะส่งผลให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในภายหลัง และ “น้ำหนักมักจะสูงกว่าก่อนลด” เสียด้วยซ้ำ เราเลยเรียกการเหวี่ยงตัวขึ้นของน้ำหนักอย่างรวดเร็วที่เหมือนกับลูกข่างโยโย่ นี้ว่า โยโย่ เอฟเฟค(Yo Yo Effect)

อาการโยโย่เอฟเฟค เกิดจากอะไร?

อาการโยโย่เอฟเฟค (Yo Yo Effect) เกิดจากหลายสาเหตุ เช่น การกินยาลดน้ำหนัก การอดอาหาร หรือการคุมอาหารแบบผิดวิธี แล้วมันเกิดโยโย่ เอฟเฟคได้อย่างไรมาดูกัน

การลดน้ำหนักแบบไม่ถูกต้อง

ไม่ว่าจะเป็นการใช้ยาลดน้ำหนัก หรือขาดการออกกำลังกาย พร้อมทั้งยังไม่ยอมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน เป็นการทำให้มวลกล้ามเนื้อลดลง การใช้ยาลดน้ำหนักมีฤทธิ์ทำให้รู้สึกอิ่มเท่านั้น เพราะตัวยาไปกดระบบประสาทไว้ “หากหยุดยาเมื่อไหร่ ความอยากอาหารนั้นก็จะกลับมา” ส่งผลให้เรากินมากขึ้น และสุดท้ายเกิดเป็นภาวะโยโย่ เอฟเฟค(Yo Yo Effect)

การอดอาหารหรือการกินอาหารน้อยเกินไป

วิธีนี้จะช่วยให้น้ำหนักลดได้ในช่วงแรก แต่การได้รับสารอาหารไม่เพียงพอกับที่ร่างกายต้องการ ส่งผลทำให้มวลกล้ามเนื้อลดลง ระบบเผาผลาญก็พัง จนเสียความสมดุลของร่างกาย หากเรากลับมากินอาหารตามปกติ น้ำหนักตัวก็จะเด้งกลับมาเท่าเดิม หรือสูงขึ้นกว่าเดิม เรียกอาการเหล่านี้ว่า อาการโยโย่ เอฟเฟค เมื่อเรากลับมาลดน้ำหนักอีกครั้งจะทำได้ยากมากขึ้น

เพราะฉะนั้นการลดน้ำหนักแบบถูกวิธีถือว่าเป็นสิ่งสำคัญในการช่วยให้มีรูปร่างสมส่วน สุขภาพที่แข็งแรง และยังช่วยป้องกันการเกิดปัญหาจากภาวะโยโย่ เอฟเอฟ(Yo Yo Effect)

น้ำหนักขึ้นเร็ว

เลิกทํา IF จะโยโย่หรือเปล่า?

การเลิกทำ if ไม่ได้ทำให้เกิดโยโย่ เอฟเฟค(Yo Yo Effect)  ได้เสียทีเดียว ก่อนอื่นอยากให้ทุกคนรู้จักคำว่า IF หรือ Intermittent Fasting คือวิธีการลดน้ำหนักแบบจำกัดชั่วโมงการกินใน 1 วัน เช่น อดอาหาร 16 ชั่วโมง ทาน 8 ชั่วโมง หรือเป็นการอดอาหารแบบวันเว้นวัน กินวันนี้ทั้งวัน อดพรุ่งนี้

“ช่วงอด” เท่ากับ กินแต่อาหารที่ไม่นับพลังงาน และ “ช่วงกิน” คือการกินอาหารที่มีปริมาณปกติ ไม่เยอะจนเกินไป ใจความสำคัญในการลดน้ำหนักแบบ IF คือ ช่วงที่รับประทานนั้นเรา ต้องกินอาหารที่ดีและเพียงพอกับระบบเผาผลาญของร่างกาย กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ เน้นการกินโปรตีนให้เพียงพอ เพื่อให้อิ่มท้องนาน และคงกล้ามเนื้อที่มีอยู่ไว้ 

แต่ถ้าในช่วงกินเรายังกินแหลกแบบไม่คุมอาหาร กินเยอะขนาดไหนก็ได้ หรือกินน้อยจนสัดส่วนอาหารไม่เหมาะสม หลังจากที่เลิกทำ IF ไปแล้วก็สามารถทำให้เกิดโยโย่ เอฟเฟค (Yo Yo Effect)  ได้เช่นกัน

ลดความอ้วนยังไง ไม่ให้เกิดอาการโยโย่เอฟเฟค?

การลดความอ้วนที่ไม่ทำให้เกิดอาการโยโย่เอฟเฟค(Yo Yo Effect)  มีดังต่อไปนี้

  1. การลดน้ำหนักโดยการ ลดไขมันและยังรักษากล้ามเนื้อ ให้คงอยู่ โดยออกกำลังกายและกินอาหารจำพวกพวกโปรตีนให้เพียงพอ
  2.  ไม่อดอาหาร กินให้ครบทุกมื้อ เน้นการกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพราะร่างกายของเราต้องการพลังงานไปใช้การทำกิจกรรมในชีวิตประจำวัน
  3. จำกัดปริมาณอาหารที่กินให้เหมาะสม แนะนำกินโปรตีนให้เพียงพอช่วยทำให้อิ่มท้องนานมากขึ้น
  4. เน้นอาหารที่มีแคลอรีต่ำ เน้นกากใย จากผักจะช่วยทำให้อิ่มท้องนานมากขึ้น เลี่ยงหรืองดอาหารที่มีไขมันสูง ของทอด ของมัน หรือของแปรรูปต่างๆ
  5. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อช่วยในการลดน้ำหนัก และควบคุมอาหารแบบถูกวิธีควบคู่ด้วย หากคุณกำลังมองหาผู้ช่วยในการลดน้ำหนัก การกิน และการออกกำลังกายแบบถูกวิธี ให้ เทรนเนอร์จาก Fit.Friend ช่วยดูแลการออกกำลังกายเพื่อให้คุณไปถึงเป้าหมายได้

สรุป

การลดน้ำหนักให้ได้ผลในระยะยาวเพื่อป้องกันภาวะโยโย่เอฟเฟค (Yo Yo Effect)  คือการควบคุมอาหารอย่างต่อเนื่อง กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ และเพียงพอกับที่ร่างกายต้องการ พร้อมออกกำลังกาย เพื่อเพิ่มกล้ามเนื้อ รักษาสมดุลระบบการเผาผลาญ ของร่างกายไม่ให้พัง ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหารและ ทำซ้ำจนเป็นนิสัย จะได้ไม่เกิดโยโย่เอฟเฟค(Yo Yo Effect) ตามมาภายหลังแน่นอน 

หากคุณยังไม่มั่นใจว่ามาถูกทางหรือเปล่าให้ Fit.Friend ช่วยดูแลคุณ โดยเทรนเนอร์ผู้เชี่ยวชาญในการออกกำลังกายจะคอยดูแลรูปร่างและการกิน แบบถูกวิธีเพื่อทำให้คุณลดน้ำหนักได้สำเร็จ

สอบถามรายละเอียดเทรนเนอร์ได้ที่ Add LINE: @fitfriend หรือ https://lin.ee/d9Mvonh  

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *