ออกกำลังกายแล้วปวดหัว อันตรายไหม เกิดจากอะไร?

การออกกำลังกายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการมีสุขภาพที่ดีตลอดชีวิตของคุณ อย่างไรก็ตาม บางครั้งอาจทำให้เกิดอาการปวดและไม่สบายตัว ซึ่งรวมถึงอาการออกกำลังกายแล้วปวดหัว, มึนหัว, หูอื้อ หรืออาจมีอาการหน้ามืดได้

วันนี้ Fit.Friend จะพาไปดูสาเหตุของอาการหลังออกกำลังกายเหล่านี้กัน และแนะนำท่ายืดกล้ามเนื้อลดอาการปวดหัวที่ทำได้เองที่บ้าน

ออกกำลังกายแล้วปวดหัว เกิดจากอะไร?

การออกกำลังกายแล้วปวดหัวหรือมึนหัว เกิดจากการออกกำลังกายแรงเกินไป หรือ ออกกำลังกายผิดท่า ส่งผลให้กล้ามเนื้อของศีรษะ คอ และหนังศีรษะ ต้องการเลือดเพื่อมาหมุนเวียนมากขึ้น ทำให้หลอดเลือดขยายตัว ซึ่งอาจนำไปสู่อาการปวดหัวตึ้บๆ  

ซึ่งอาการปวดหัวที่เกิดขึ้นบ่อยที่สุดจากการออกกำลังกาย หรือออกแรงมากเกินไปนั้น ได้แก่ “อาการวิ่งแล้วปวดหัว” ซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นได้บ่อยกับผู้ที่เป็นไมเกรน ผู้ที่ออกกำลังกายช่วงอากาศร้อน หรือออกกำลังกายบนที่สูง

ออกกำลังกายแล้วปวดหัวอันตรายไหม?

อาการออกกำลังกายแล้วปวดหัว ส่วนใหญ่ไม่เป็นอันตราย และสามารถรักษาให้หายได้ตามวิธีรักษาพื้นฐาน 

ทั้งนี้เมื่อคุณเกิดอาการออกกำลังกายแล้วปวดหัว “อย่าเพิ่งสรุปว่าอาการปวดหัวของคุณเกิดจากการออกกำลังกายเพียงอย่างเดียว” หากเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ควรพบแพทย์เพื่อประเมินอาการ และตรวจโดยละเอียด เพื่อหาสาเหตุของอาการต่อไป

สาเหตุอื่นๆที่ทำให้ออกกำลังกายแล้วปวดหัว

การหาสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการออกกำลังกายแล้วปวดหัวหรือมึนหัวไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากอาการดังกล่าวขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น

  • การสูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์
  • ความเครียด อ่อนเพลีย และนอนไม่หลับ
  • โรคทางพันธุกรรม โรคไมเกรน
  • การรับประทานยา (เช่น ยาคุมกำเนิด) หรืออาหารบางประเภท

อาการแบบไหนเสี่ยงอันตราย ควรพักการออกกำลังกายทันที!

หากคุณออกกำลังกายและเกิดอาการดังต่อไปนี้ เพียงอาการเดียว “คุณควรหยุดการออกกำลังกาย” และนั่งพักจนกว่าอาการดังกล่าวจะหายไป หากอาการไม่ทุเลาให้คุณไปพบแพทย์โดยเร่งด่วน

  • ออกกำลังกายแล้วหูอื้อ  
  • ออกกำลังกายแล้วหน้าแดง หัวใจเต้นเร็วกว่าปกติ 
  • รู้สึกจะวูบ ตาพร่า
  • คลื่นไส้ระหว่างออกกำลังกาย
  • ออกกําลังกาย แล้วตัวเย็น มือเท้าเย็น
  • ออกกำลังกายแล้วหน้ามืด

อาหารที่มีผลให้เกิดอาการปวดหัว

ปัจจัยที่อาจเป็นสาเหตุของอาการปวดหัวที่ไม่ควรมองข้าม คือ อาหาร ต่อไปนี้คือรายการของอาหารที่มีผลให้เกิดอาการปวดหัว เมื่อรับประทานในปริมาณมาก

  • ชีส
  • ช็อคโกแลต
  • กล้วย อะโวคาโด ลูกเกด ถั่ว ผลไม้รสเปรี้ยว 
  • กะหล่ำปลีดอง มะเขือเทศ 
  • อาหารดอง อาหารกระป๋อง ไส้กรอก
  • ไวน์
  • ของทอด
  • ไอศกรีม โยเกิร์ต 
  • สาหร่าย

อาหารลดอาการปวดหัว

โดยปกติเมื่อคุณมีอาการปวดหัว คุณจะไม่รู้สึกอยากอาหาร และเป็นเรื่องยากที่จะกินอาหารได้ตามปกติ ต่อไปนี้คือรายการของอาหารที่สามารถช่วยลดอาการปวดหัวได้

  • แปะก๊วย โดยแปะก๊วยสามารถลดอาการปวดหัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • กาแฟและชา โดยสารที่มีอยู่ในชาหรือกาแฟ จะช่วยบรรเทาอาการปวดหัวได้
  • อาหารจำพวก ขิงและจมูกข้าวสาลี  เป็นอาหารในอุดมคติสำหรับผู้ที่มีอาการปวดหัว ทำให้ร่างกายได้รับแคลเซียมและแมกนีเซียม ลดการเกิดอาการปวดหัวได้
  • ดื่มน้ำ  เมื่อเกิดอาการปวดหัว ควรดื่มน้ำปริมาณมาก จะช่วยทุเลาอาการเจ็บได้

3 ท่ายืดกล้ามเนื้อ ลดอาการปวดหัว

เพื่อป้องกันอาการปวดหัวตึ้บๆ ระหว่างออกกำลังกาย คุณควรยืดกล้ามเนื้อ โดยการยืดกล้ามเนื้อ เพียง 5 นาที จะสามารถเพิ่มความคล่องตัวในการไหลเวียนของเลือด และลดการตึงของกล้ามเนื้อได้

ท่ายืดกล้ามเนื้อที่ 1

  • เอามือไปด้านหลังคอ บังคับหัวไปข้างหน้าและลงช้า ๆ 
  • ใช้มือข้างหนึ่งจับหัวไปทางขวาแล้วทำซ้ำไปทางซ้ายโดยให้ไหล่อยู่นิ่งกับที่
  • แหงนหน้าขึ้นช้าๆ จนหัวหันกลับ
  • ทำซ้ำ 2- 3 รอบ
  • เมื่อคุณออกกำลังกายเสร็จแล้ว ให้ใช้นิ้วโป้งนวดบริเวณตรงกลางของหน้าผากเบา ๆ แล้วค่อย ๆเลื่อนลงมาจนถึงปลายคิ้วทั้ง 2 ข้าง

ท่ายืดกล้ามเนื้อที่ 2

  • วางนิ้วบนคางแล้วค่อยๆ ดันกลับโดยไม่งอหรืองอคอลง
  • รักษาตำแหน่งนี้ไว้ 3 ถึง 5 วินาที
  • ทำซ้ำ 5 ถึง 10 ครั้ง
  • เป้าหมายคือการสร้างคางสองชั้นชั่วขณะ ซึ่งจะช่วยลดการงอคอและปรับปรุงท่าทางของศีรษะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อดูหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือมือถือเป็นระยะเวลานาน
back stretching

ท่ายืดกล้ามเนื้อที่ 3

  • เอามือไพล่หลัง
  • ยกมือขึ้นจากด้านหลังหลังโดยไม่ก้มศีรษะและดันหน้าอกไปข้างหน้า
  • ทำค้างไว้ 20-30 วินาทีและทำซ้ำ 2 หรือ 3 ครั้ง

สรุป

การออกกำลังกายแล้วปวดหัวตึ้บๆหรือมึนหัว เกิดจากกล้ามเนื้อบริเวณหัวหรือคอ ต้องการเลือดเพื่อมาหมุนเวียน โดยเกิดมาจากหลายสาเหตุ เช่น การออกกำลังกายหรือออกแรงมากเกินไป ออกกำลังกายช่วงอากาศร้อน ออกกำลังกายบนที่สูง เป็นไมเกรน พักผ่อนน้อย และการทานอาหาร

ซึ่งส่วนใหญ่ไม่เป็นอันตรายและสามารถรักษาให้หายได้ตามวิธีรักษาพื้นฐาน และการออกกำลังกายยืดกล้ามเนื้อ 

ทั้งนี้คุณสามารถให้ Fit.Friend ช่วยสอนเทคนิคการออกกำลังกายที่ถูกต้อง และให้เทรนเนอร์คอยช่วยดูแลอาการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างการออกกำลังกายได้อย่างใกล้ชิด เราพร้อมให้บริการเทรนเนอร์เดลิเวอรี่ไปช่วยคุณฟิตถึงบ้าน

สอบถามรายละเอียดเทรนเนอร์ส่วนตัวได้ที่

Add LINE: @fitfriend หรือ https://lin.ee/d9Mvonh

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *