“ดื่มแต่น้ำเพื่อลดน้ำหนัก สุขภาพร่างกายจะเสียมั้ย” เพื่อนๆหลายคนคงมีข้อสงสัยกันอยู่ไม่น้อยว่าคนเราสามารถดื่มน้ำลดน้ำหนัก กันได้จริงรึเปล่า ร่างกายเราจะไหวมั้ย การอดอาหารกินแต่น้ำเปล่าจะมีผลต่อร่างกายยังไงบ้าง
วันนี้พวกเราชาว Fit.friend จะพาเพื่อนๆไปรู้จักกับกระบวนการการทำ Water Fasting คืออะไร อีกทั้งยังมีทริคดีๆในการดื่มน้ำลดน้ำหนักว่าต้องทำยังไงให้ร่างกายสามารถลดน้ำหนักได้และไม่เสียสุขภาพ
การทำ Water Fasting คืออะไร?
Water Fasting คือการอดอาหารทุกประเภทแล้วกินเเต่น้ำเปล่า หรือพูดง่าย ๆ ว่าเป็นการดื่มน้ำลดน้ำหนัก ซึ่งเป็นวิธีการอดอาหารที่เราไม่สามารถกินอาหารอะไรได้เลยนอกจากน้ำเปล่าเป็นเวลาต่อเนื่อง 1-3 วัน (24-72 ชั่วโมง)
วิธีนี้สามารถทำได้ง่าย คนส่วนใหญ่จะใช้วิธีดื่มน้ำลดน้ำหนักหรือ water fasting เพื่อลดน้ำหนัก และทำเพื่อดีท็อกซ์ร่างกาย
ทำไม Water Fasting ถึงช่วยลดน้ำหนักได้?
กระบวนการหลัก ๆ เลยของการทำ Water Fasting คือการกระตุ้นให้ฮอร์โมนในร่างกายที่มีชื่อว่าอินซูลิน (Insulin) และเลปติน (Leptin) มีการตอบสนองการทำงานที่ไวมากขึ้น
ซึ่งฮอร์โมนสองตัวนี้มีส่วนสำคัญมากต่อกระบวนการเผาผลาญในร่างกาย ทำให้ในระหว่างที่ทำ Water Fasting ร่างกายมีการกระตุ้นฮอร์โมนอินซูลิน (Insulin) และเลปติน (Leptin) ส่งผลให้เพิ่มกระบวนการเผาผลาญ ร่างกายจึงมีระดับการเผาผลาญมากขึ้น น้ำหนักจึงลดลงนั่นเอง
ประโยชน์ของการทำ Water Fasting
นอกจากการทำ Water Fasting จะช่วยในเรื่องของการลดน้ำหนักเเล้ว ยังมีประโยชน์ในด้านต่าง ๆ อีกมากมาย เช่น
- ช่วยส่งเสริมให้ร่างกายเกิดกระบวนการกลืนกินเซลล์ หรือเรียกอีกอย่างว่า “กระบวนการ Autophagy” คือกระบวนการที่ร่างกายเราจะนำเซลล์เก่าเปลี่ยนมาเป็นเซลล์ใหม่ที่แข็งเเรงขึ้น กระบวนการ Autophagyยังสามารถช่วยลดสาเหตุที่อาจก่อให้เกิดโรคเรื้อรังต่าง ๆ ได้ โดยเฉพาะโรคเบาหวาน โรคหัวใจ เเละมะเร็ง เป็นต้น
- ช่วยลดความดันโลหิต การทำ Water Fasting ไม่เพียงเเต่เป็นการดื่มน้ำลดน้ำหนักอย่างเดียว ยังเป็นวิธีในการช่วยให้คนที่มีความดันโลหิตสูง กลับมามีความดันโลหิตปกติได้อีกด้วย
ทำ Water Fasting 1 วันควรดื่มน้ำกี่ลิตร?
เพื่อน ๆ อาจมีคำถามอีกว่า “แล้วใน 1วันควรดื่มน้ำกี่ลิตร” ในการทำ Water Fasting หรือดื่มน้ำลดน้ำหนักนั้น ยังไม่มีงานวิจัยไหนสรุปได้ชัดเจนถึงปริมาณน้ำที่ควรดื่มในการทำ Water Fasting
อย่างไรก็ตามเพื่อน ๆที่กำลังจะทำ Water Fasting ควรจะดื่มน้ำให้เพียงพอในปริมาณ 2-3 ลิตร ตามปริมาณน้ำที่ร่างกายควรได้รับในแต่ละวัน
ทำ Water Fasting มากกว่า 3 วันได้ไหม?
เนื่องจากการทำ Water Fasting ยังไม่มีงานวิจัยหรือคำแนะนำที่ชัดเจนว่า เราสามารถอดอาหารได้นานเเค่ไหน สามารถทำได้ในระยะเวลลาที่นานเท่าไหร่ หรือแม้เเต่ใน 1 วันควรดื่มน้ำกี่ลิตร
แต่สิ่งหนึ่งที่ผู้เชี่ยวชาญเห็นตรงกันก็คือ การอดอาหารนานกว่า 3 วัน เช่น 7-14 วัน หรือการทำ Water Fasting กินแต่น้ำเปล่า เป็นระยะเวลานานติดต่อกันเกินกว่า 3 วันนั้น อาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้ อาจทำให้ร่างกายอยู่ในสภาวะขาดน้ำ และมีอาการวิงเวียนศีรษะได้
อีกทั้งจากการศึกษายังพบว่า ผู้ป่วยโรคเบาหวาน โรคเก๊า โรคกินมากเกินไป รวมไปถึงคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์อยู่ควรงดการทำ Water Fasting โดยเด็ดขาด
ทำ Water Fasting 3 วัน ลดน้ำหนักได้กี่กิโลกรัม?
การทำ water fasting 3 วัน อาจสามารถลดน้ำหนักได้เล็กน้อย แต่น้ำหนักที่ลดไปอาจจะเป็นน้ำหนักของน้ำและอาหารที่กินไปก่อนทำ ไม่ใช่ไขมัน เมื่อคุณกลับมากินตามปกติน้ำหนักอาจกลับมาเหมือนเดิมได้ ดังนั้นเพื่อผลลัพธ์ที่ดีควรทำอย่างสม่ำเสมอควบคู่กับการ IF แต่ไม่ควรทำบ่อยจนเกินไป
ระหว่างทำ Water Fasting กินอะไรได้บ้าง?
ระหว่างทำ Water Fasting ไม่ควรกินอาหารหรือเครื่องดื่มอะไรนอกจากน้ำ แต่สามารถเสริมเกลือหิมาลายันเพื่อเพิ่มแร่ธาตุให้กับร่างกายได้ในปริมาณไม่เกิน 1 ช้อนโต๊ะต่อวัน
ระหว่างทำ Water Fasting กินกาแฟได้ไหม?
การกินกาแฟหรือชาจะกระตุ้นตับให้ล้างกำจัดคาเฟอีน ทำให้ในขณะที่ระบบย่อยอาหารของคุณกำลังหยุดพัก ตับของคุณก็ยังทำงานหนักอยู่ ผู้เชี่ยวชาญหลายคนจึงไม่แนะนำให้ดื่มระหว่าง Water Fasting
การปรับร่างกายหลังทำ Water Fasting
หลังจากการทำ Water Fasting ดื่มน้ำลดน้ำหนักแล้ว เพื่อน ๆ ควรจะค่อย ๆ ปรับอาหารให้กลับมาอยู่ในปริมาณปกติ และควรจะรับประทานอาหารที่สามารถย่อยได้ง่ายก่อน
เพื่อให้ร่างกายไ้ด้มีการปรับตัวเพราะหากเรากินอาหารในปริมาณที่กินปกติก่อนทำ Water Fasting เลยทันทีอาจทำให้ร่างกายปรับสภาพไม่ทัน อาจเกิดอาการจุกเสียดได้
สรุป
การทำ Water Fasting คือการอดอาหารทุกประเภทแล้วดื่มเเต่น้ำเปล่า หรือพูดง่าย ๆ คือการดื่มน้ำลดน้ำหนัก เป็นวิธีการอดอาหารที่เราไม่สามารถกินอาหารอะไรได้เลยนอกจากน้ำเปล่าเป็นเวลาต่อเนื่อง 24-72ชั่วโมง และควรจะกินน้ำให้เพียงพอในปริมาณ 2-3 ลิตร ตามปริมาณน้ำที่ควรได้รับในแต่ละวัน
การทำ Water Fasting นอกจากจะเป็นการดื่มน้ำลดน้ำหนักเเล้วยังสามารถช่วยลดเรื่องความดันโลหิตสูง เเละช่วยเรื่อง“กระบวนการ Autophagy” อีกด้วย
อย่างไรก็ตามทาง Fit.friend ขอย้ำเพื่อน ๆ อีกทีว่าการทำ Water Fasting โดยดื่มแต่น้ำเปล่า การอดอาหารในระยะเวลาที่นานเกินไป อาจทำให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพร่างกายได้ ทางที่ดี
Fit.friend ขอแนะนำเพื่อนๆว่าควรเลือกทำวิธี Intermittent Fasting (IF) ก่อนที่จะปรับมาเป็นการทำวิธี Water Fasting ดื่มน้ำลดน้ำหนัก หรือหากต้องการลดน้ำหนักอย่างยั่งยืน แนะนำให้ปรับอาหารและออกกำลังกายไปพร้อม ๆ กัน จะได้ผลลัพธ์ที่ยั่งยืนกว่า
ทั้งนี้เพื่อน ๆ สามารถให้ Fit.Friend ช่วยสอนเทคนิคการออกกำลังกายที่ถูกต้อง และให้เทรนเนอร์คอยช่วยดูแลอาการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างการออกกำลังกายได้อย่างใกล้ชิด เราพร้อมให้บริการเทรนเนอร์เดลิเวอรี่ไปช่วยคุณฟิตถึงบ้าน
สอบถามรายละเอียดเทรนเนอร์ส่วนตัวได้ที่ Add LINE: @fitfriend หรือ https://lin.ee/d9Mvonh