วิ่งเเล้วจุกปวดท้อง เกิดจากอะไร ต้องทำยังไงดี?

อยากสุขภาพดี อยากวิ่งออกกำลังกาย แต่ดันวิ่งเเล้วจุก หรือวิ่งแล้วปวดท้อง !  ปัญหากวนใจของเพื่อนๆ นักวิ่งมือใหม่หลายคนที่กำลังหันมาออกกำลังกายโดยการวิ่ง

อาการวิ่งเเล้วจุกเสียดท้อง อาการวิ่งเเล้วจุกเสียดใต้ซี่โครง หรือแม้กระทั่งการออกกำลังกายเเล้วจุกเหล่านี้ ทำให้เพื่อนๆรู้สึกท้อและหมดกำลังใจที่จะออกกำลังกาย

วันนี้ทาง Fit.Friend จะมาช่วยเพื่อนไขข้อข้องใจเกี่ยวกับสาเหตุและการแก้ปัญหาของอาการวิ่งเเล้วจุก หรือการออกกำลังกายเเล้วจุกเหล่านี้กัน

วิ่งเเล้วจุกปวดท้อง เกิดจากอะไร?

การวิ่งแล้วจุกหรือปวดท้อง เกิดจากอาการจุกเสียดท้อง (Side Stitches) ซึ่งเป็นอาการที่เกิดจากความตึงเครียดหรืออาการเกร็งของกล้ามเนื้อระหว่างซี่โครง ส่งผลทำให้เกิดอาการเจ็บปวดบริเวณท้องหรือบริเวณซี่โครงข้างใดข้างหนึ่ง 

โดยอาจมีสาเหตุเบื้องต้นมาจากการบิดลำตัวที่มากเกินไป การยกของหนัก หรือการถูกกระแทกบริเวณที่มีอาการจุกเสียด การกินอาหารในปริมาณที่มากเกินไป การหายใจที่ไม่สัมพันธ์กันในขณะที่ออกกำลังกายเป็นต้น

อาการวิ่งเเล้วจุก วิ่งแล้วปวดท้อง หรือแม้กระทั่งการออกกำลังกายเเล้วจุกเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ โดยสาเหตุหลักๆที่ทำให้เกิดอาการเหล่านี้ ได้แก่

1.ทานอาหารก่อนเวลาวิ่งมากเกินไป

การทานอาหารก่อนออกกำลังกายถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะในการออกกำลังกาย ร่างกายจำเป็นต้องใช้พลังงานอย่างมาก แต่การทานอาหารในปริมาณที่มากเกินไป อาจทำให้เพื่อนๆ ที่วิ่งออกกำลังกายพบเจอกับอาการวิ่งแล้วจุก

สาเหตุที่ทานอาหารมากเกินไปแล้วทำให้วิ่งเเล้วจุกหรือออกกำลังกายเเล้วจุกนั้นเป็นเพราะการทานในปริมาณมากนั้นทำให้ตัวกล้ามเนื้อต่างๆ ต้องทำงานหนักขึ้น ทำให้เลือดไปเลี้ยงบริเวณกล้ามเนื้อต่างๆ ไม่เพียงพอ ส่งผลให้เกิดอาการวิ่งแล้วจุก วิ่งเเล้วจุกอก วิ่งเเล้วจุกใต้ซี่โครงขวาหรือซ้าย การออกกำลังกายเเล้วจุก

2.อบอุ่นร่างกาย(warm up)ไม่เพียงพอก่อนออกกำลังกาย

ในการจะเริ่มออกกำลังกาย ร่างกายจำเป็นต้องมีการเตรียมพร้อม ยืดกล้ามเนื้อ ปรับสมดุลของร่างกายให้พร้อมสำหรับการใช้กล้ามเนื้อในกิจกรรมที่กำลังจะเกิดขึ้น

หากเพื่อนๆไม่ได้อบอุ่นร่างกาย(warm up)ให้พร้อมก่อนที่จะเริ่มออกกำลังกาย ส่งผลให้เกิดอาการวิ่งแล้วจุกเสียด หรือออกกำลังกายเเล้วจุกได้ เนื่องจากสภาพร่างกายปรับสมดุลไม่ทันทำให้กล้ามเนื้อเกิดการตึงหรือเกร็งนั่นเอง

3.ความไม่เคยชินของกล้ามเนื้อ

อาการวิ่งเเล้วจุกหรือออกกำลังกายเเล้วจุก ที่มักเป็นปัญหากวนใจของเพื่อนๆ นักออกกำลังกายมือใหม่ทุกคนอาจเป็นเพราะความไม่เคยชินของกล้ามเนื้อโดยเฉพาะกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว

เนื่องจากกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวเหล่านี้ เป็นกล้ามเนื้อกระบังลมส่วนที่ช่วยในเรื่องของการหายใจ เมื่อกล้ามเนื้อบริเวณเหล่านี้ยังไม่เคยชินหรือยังแข็งเเรงไม่พอ ก็จะส่งผลให้เกิดอาการวิ่งเเล้วจุก หรือแม้กระทั่งการออกกำลังกายเเล้วจุกได้

เกิดอาการวิ่งเเล้วจุก แก้ไขอย่างไร?

เมื่อเพื่อนๆ นักวิ่ง นักออกกำลังกายมือใหม่ มีอาการวิ่งเเล้วจุกหรือออกกำลังกายเเล้วจุกนั้น ส่วนใหญ่ก็มักจะท้อและหมดกำลังใจในการออกกำลังกายไป Fit.Friend จึงอยากจะบอกวิธีรับมือกับอาการกวนใจเหล่านี้กับเพื่อนๆ ทุกคน ได้แก่

  • ทานอาหารในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อเป็นพลังงานที่จะใช้ในการออกกำลังกาย และควรทานอาหารก่อนวิ่ง อย่างน้อย 2 ชั่วโมงขึ้นไป เพื่อลดอาการวิ่งแล้วจุกหรือลดอาการออกกำลังกายเเล้วจุก
  • ควรอบอุ่นร่างกาย (warm up) ให้เพียงพอก่อนการออกกำลังกาย เพื่อให้สภาพร่างกายได้ปรับตัว เเละลดการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อขณะออกกำลังกายเเละหลังออกกำลังกาย
  • เพิ่มการออกกำลังการช่วงลำตัว เพื่อสร้างความเคยชินเเละความเเข็งเเรงของกล้ามเนื้อกระบังลม โดยการฝึกบริการกล้ามเนื้อกระบังลม  การฝึกการหายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอเพื่อช่วยให้เพื่อนๆมีจังหวะการหายใจเข้าออกที่ดีขึ้น หายใจเข้าให้บริเวณช่วงท้องพองออกมาเเละหายใจเข้าให้แขม่วช่วงท้องเข้า

สำหรับใครที่อยากฝึกการหายใจ รวมถึงเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวและกระบังลม เราสามารถฝึกได้ด้วยกิจกรรม Yoga หรือ Pilates ซึ่งเป็นกิจกรรมออกกำลังกายเบาๆแบบ low intensity ถ้าใครสนใจสามารถติดต่อบริการเทรนเนอร์ของเราได้เลย !

เพียงเท่านี้อาการวิ่งแล้วจุก วิ่งแล้วปวดท้อง หรือ ออกกำลังกายเเล้วจุกที่กวนใจนักวิ่ง นักออกกำลังกายมือใหม่ทุกๆ คนก็จะหมดไป อีกทั้งยังเป็นการสร้างความเเข็งเเรงเเละลดอาการบาดเจ็บของกล้ามเนื้ออีกด้วย

สรุป

อาการวิ่งแล้วจุก วิ่งแล้วปวดท้องหรือออกกำลังกายเเล้วจุก โดยหลักแล้วจะเกี่ยวกับการปรับตัวของกล้ามเนื้อในร่างกาย เเละมักเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น  การทานอาหารก่อนเวลาวิ่งมากเกินไป การอบอุ่นร่างกาย(warm up)ไม่เพียงพอก่อนออกกำลังกาย ความไม่เคยชินของกล้ามเนื้อ หรือปัจจัยอื่นๆที่เกี่ยวกับสภาพร่างกายของเพื่อนๆนักวิ่ง นักออกกำลังกายมือใหม่แต่ละคน

ทั้งนี้เพื่อนๆสามารถให้ Fit.Friend ช่วยสอนเทคนิคการออกกำลังกายที่ถูกต้อง และให้เทรนเนอร์คอยช่วยดูแลอาการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างการออกกำลังกายได้อย่างใกล้ชิด เราพร้อมให้บริการเทรนเนอร์เดลิเวอรี่ไปช่วยคุณฟิตถึงบ้าน

สอบถามรายละเอียดเทรนเนอร์ส่วนตัวได้ที่

Add LINE: @fitfriend

หรือ https://lin.ee/d9Mvonh 

ขอบคุณที่มา : Youtube-Optimal Body Personal Training , Youtube-Mahidol Channel มหิดล แชนแนล , Youtube-BTimes , Youtube-
KRUPHALA CHANNEL
, hellokhunmor.com

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *