บ่อยครั้งที่หลายคนที่อยากออกกำลังกายแต่ไม่มีเวลาไปฟิตเนส หรือไม่อยากเดินทางเพราะเหน็ดเหนื่อยจากเวลาทำงาน แต่ก็ต้องการวิธีออกกำลังกายที่เห็นผลได้
ทาง Fit.Friend มีทางเลือกใหม่อย่าง “การกระโดดตบ” มาแนะนำเพื่อนๆ ที่ทุกคนคุ้นเคยกันตั้งแต่เด็ก เพราะทำได้ง่ายๆ ทุกที่ ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ และเห็นผลได้จริง! แต่จะมีเคล็ดลับอย่างไร ต้องห้ามพลาดบทความนี้
การกระโดดตบช่วยอะไรบ้าง?
ประโยชน์ของการกระโดดตบถือเป็นการออกกำลังแบบคาร์ดิโอชนิดหนึ่ง ที่นอกจากจะช่วยให้หัวใจแข็งแรงแล้ว ท่านี้ยังใช้กล้ามเนื้อแทบจะทั้งร่างกาย
ไม่ว่าจะเป็นตั้งแต่ส่วน แขน หัวไหล่ ขา หรือกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว จึงช่วยให้ร่างกายสามารถเผาผลาญแคลอรีส่วนเกินในร่างกายได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว
กระโดดตบ เผาผลาญกี่แคลอรี่?
ประโยชน์ของการกระโดดตบที่แม้จะเป็นท่าออกกำลังกายแบบเบสิกแต่กลับเผาผลาญไขมันไปได้หลายแคลอรี่ หากเรากระโดดตบเพียงวันละ 20 นาที จะสามารถเผาผลาญไปได้ถึง 250-300 แคลอรี่เลยทีเดียว
ซึ่งควรเริ่มจากการกระโดดตบต่อเนื่อง 5 นาที นับเป็น 1 เซต และทำทั้งหมด 4 เซตให้ครบเวลา 20 นาที เท่านี้ก็ออกกำลังได้ครบทุกสัดส่วนแล้ว
กระโดดตบ 100 ครั้ง เผาผลาญแคลอรี่?
แล้วการกระโดดตบแต่ละครั้งเผาผลาญแคลอรี่อย่างไรบ้าง เพื่อให้ง่ายต่อการคำนวณทาง Fit.Friend จึงขอยกตัวอย่างการกระโดดตบดังนี้ครับ
หากกระโดดตบ 50 ครั้ง จะเผาผลาญไปได้ 10 แคลอรี่ นั่นหมายความว่ากระโดด 1 ครั้ง จะเผาผลาญประมาณ 0.2 แคลอรี่
ดังนั้นถ้ากระโดดตบครบ 100 ครั้ง ก็จะสามารถเผาผลาญพลังงานไปได้ประมาณ 20 แคลอรี่ครับ
ท่ากระโดดตบที่ถูกต้องและวิธีที่ไม่ทำให้บาดเจ็บ
แม้ว่าเป็นท่าที่เพื่อนๆ ทุกคนรู้จักกันดี แต่หากเล่นผิดวิธีก็อาจทำให้เกิดการบาดเจ็บขึ้นได้ ดังนั้น Fit.Friend จึงหาวิธีมาให้เพื่อนๆ ระวังว่ากระโดดท่าไหนจะถูกต้องปลอดภัยไม่ทำให้ร่างกายบาดเจ็บ
- เริ่มจากยืนตัวตรง ให้เท้าทั้งสองข้างชิดกัน เอาแขนแนบไว้ข้างลำตัว
- จากนั้นกระโดดขึ้นงอเข่าเล็กน้อย ให้แยกเท้าออกความกว้างเท่าหัวไหล่
- ยกมือทั้งสองข้างขึ้นตบกันเหนือศีรษะ
- แล้วกลับสู่ท่าเตรียม
- ทำติดต่อกัน 5 – 10 นาที หรือตามความเหมาะสม
ทริกเล็กๆ อยากแนะนำ ในการกระโดดตบนั้น ให้กระโดดลงให้ลงเบาๆ ควรงอหัวเข่าเล็กน้อย และยืดหลังตรงจะช่วยลดการกระแทกต่อหัวเข่าและหลังได้นั่นเอง
กระโดดตบกี่นาทีถึงเห็นผลดีได้ทั้งร่างกาย
หากคุณมีเวลาในการออกกำลังกายไม่มาก การกระโดดตบเพียงวันละ 10 นาที หรืออาจจะ 5 – 10 เซต ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อร่างกายแล้ว เพราะในช่วงเวลานั้นทุกส่วนของร่างกายถือว่าได้ใช้ครบทั้งหมด ไม่ว่าจะแขน ไหล่ ต้นขา น่อง กล้ามเนื้อลำตัวก็ตาม ยังรวมไปถึงหัวใจที่แข็งแรงขึ้นเพราะเลือดสูบฉีดได้ดีขึ้นด้วย
แต่ถ้าอยากกระโดดตบเพื่อให้เห็นผลได้ดีจริงนั้น ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการออกกำลังกาย คือควรจะทำต่อเนื่องประมาณ 20 – 30 นาทีต่อวัน เพราะระยะเวลาประมาณนี้จะช่วยเผาผลาญ และสลายไขมันของเราได้อย่างเต็มที่ ยิ่งถ้าพยายามทำติดต่อกันให้ครบเดือน รับรองได้เลยว่าท่าออกกำลังง่ายๆ แบบนี้ก็ช่วยให้ไขมันในร่างกายลดและน้ำหนักลดไปได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
กลุ่มไหนบ้างที่อาจไม่เหมาะกับการกระโดดตบ
แม้ว่าเป็นท่าที่หลายคนคุ้นเคยทำกันมาอยู่ตลอด แต่ก็ยังมีข้อยกเว้นสำหรับคนบางกลุ่ม ที่ถ้ายิ่งออกกำลังด้วยการกระโดดตบนั้นอาจทำให้เกิดอันตรายเพิ่มเติมได้
- คนที่มีอาการบาดเจ็บที่หัวเข่า
เพราะการกระโดดซ้ำๆ ย้ำๆ จะทำให้การบาดเจ็บที่มีอยู่แล้วยิ่งรุนแรงขึ้นได้ เพราะน้ำหนักตัวทั้งหมด และแรงส่งจะลงไปอยู่ที่หัวเข่า
- คนอ้วน หรือคนที่มีเปอร์เซนต์ไขมันในร่างกายเยอะ
เพราะการกระกระโดดตบจะเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ ทำให้อัตราการเต้นของหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ และน้ำหนักตัวจากไขมันในร่างกายอาจส่งผลกระทบข้อต่อที่หัวเข่าทำให้เกินการบาดเจ็บของร่างกายได้อีกด้วย
ทั้งนี้ แม้จะไม่สามารถกระโดดได้ สามารถเปลี่ยนวิธีหันมาสลับขา และยกแขนอยู่กับที่ท่าคล้ายกับกระโดดตบแทนได้ ถือเป็นการออกกำลังทุกส่วนได้ดีเช่นกัน ทางที่มีบุคคลที่มีข้อควรระวังควรมีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลกำกับร่วมด้วย
ข้อควรระวังในการกระโดดตบ
เห็นท่าง่ายๆ ดูไม่มีอะไรแบบนี้ แต่ก็มีข้อควรระวังอยู่เหมือนกัน
- ระวังสถานที่
ควรที่จะอยู่ในพื้นที่ไม่ลื่น เพราะจังหวะที่กระโดดอาจเกิดความผิดพลาด และทำให้ล้มลงบาดเจ็บได้
- ควรเลือกรองเท้าที่เหมาะสม
รองเท้าจะต้องซัพพอร์ท การกระโดดเท่าเปล่านอกจากทำให้เกิดอันตรายแล้ว ยังทำให้เกิดการบาดเจ็บได้เพราะไม่มีอะไรมาซัพแรงกระแทกของเข่าและปลาย เท้านั่นเอง
- ควรระวังจังหวะตอนกระโดดลง
ให้ลงเบาๆ งอเข่าเล็กน้อย และหลังยืดตรง วิธีนี้ช่วยลดการเกิดแรงกระแทกต่อหัวเข่าและหลังได้
ตารางกระโดดตบเพื่อลดน้ำหนักอย่างเห็นผล
ถ้าอยากให้การลดน้ำหนักด้วยการกระโดดตบเห็นผลได้ดีก็ควรจะต้องมีวินัย และทำอยู่เป็นประจำ วันนี้ Fit.Friend เลยมีตารางการกระโดดสนุกๆ มาให้เพื่อนๆ ได้ลองทำตามกันรับรองว่าถ้าทำตามนี้ต้องเห็นผลที่ดีอย่างแน่นอน
ตารางกระโดดตบ 30 วัน
วันที่ 1 | วันที่ 2 | วันที่ 3 | วันที่ 4 | วันที่ 5 |
กระโดดตบ 10 ครั้ง | กระโดดตบ 15 ครั้ง | กระโดดตบ 20 ครั้ง | กระโดดตบ 25 ครั้ง | กระโดดตบ 30 ครั้ง |
วันที่ 6 —- พัก —- | วันที่ 7 กระโดดตบ 30 ครั้ง | วันที่ 8 กระโดดตบ 35 ครั้ง | วันที่ 9 กระโดดตบ 40 ครั้ง | วันที่ 10 กระโดดตบ 45 ครั้ง |
วันที่ 11 กระโดดตบ 50 ครั้ง | วันที่ 12 —- พัก —- | วันที่ 13 กระโดดตบ 50 ครั้ง | วันที่ 14 กระโดดตบ 55 ครั้ง | วันที่ 15 กระโดดตบ 60 ครั้ง |
วันที่ 16 กระโดดตบ 65 ครั้ง | วันที่ 17 กระโดดตบ 70 ครั้ง | วันที่ 18 —- พัก —- | วันที่ 19 กระโดดตบ 70 ครั้ง | วันที่ 20 กระโดดตบ 75 ครั้ง |
วันที่ 21 กระโดดตบ 80 ครั้ง | วันที่ 22 กระโดดตบ 85 ครั้ง | วันที่ 23 กระโดดตบ 90 ครั้ง | วันที่ 24 —- พัก —- | วันที่ 25 กระโดดตบ 100 ครั้ง |
วันที่ 26 กระโดดตบ 110 ครั้ง | วันที่ 27 กระโดดตบ 120 ครั้ง | วันที่ 28 กระโดดตบ 130 ครั้ง | วันที่ 29 กระโดดตบ 140 ครั้ง | วันที่ 30 กระโดดตบ 150 ครั้ง |
สรุป
แม้การกระโดตบจะเป็นท่าออกกำลังกายง่ายๆ แต่ถือว่าเป็นจุดของต้นของวิธีการลดน้ำหนักได้ดีอย่างหนึ่ง แม้คุณจะมีเวลาแค่ 10 นาที คุณก็สามารถขยับด้วยด้วยการกระโดดตบ ทำให้ร่างกายสามารถเริ่มขั้นต้นของการเผาพลาญไขมันได้ดีอีกวิธีหนึ่ง
นอกจากจะช่วยให้คุณมีร่างกายที่เฟิร์มขึ้นรวมไปถึงหัวใจที่แข็งแรงขึ้นด้วยแล้วนั้นใจความสำคัญคือการทำอย่างสม่ำเสมอและถูกต้องเพื่อลดการบาดเจ็บนั่นเอง
หากสนใจสอบถามรายละเอียดเทรนเนอร์ส่วนตัวได้ที่
Add LINE: @fitfriend
ขอบคุณที่มา : www.liekr.com , www.wongnai.com , society.wefitnesssociety.com , burned-calories.com